ธรณีประวัติ (Mistorical geology)
ข้อมูลทางธรณีวิทยาที่สามารถอธิบายความเป็นมาของพื้นที่ในอดีตได้แก่ อายุทางธรณีวิทยา ซากดึกดำบรรพ์ โครงสร้างและการลำดับชั้นหิน เป็นต้น
- อายุทางธรณีวิทยา
โดยทั่วไปอายุทางธรณีวิทยาแบ่งเป็น 2 แบบ คือ
อายุเทียบสัมพันธ์ และอายุสัมบูรณ์ ซึ่งมีวิธีศึกษาแตกต่างกัน
อายุเทียบสัมพันธ์ (relative age) เป็น อายุหินเปรียบเทียบซึ่งบอกได้ว่าหินชุดใดมีอายุมากหรืออายุน้อยกว่า
กันอายุเทียบสัมพันธ์หาได้โดยอาศัยข้อมูลจากซากดึกดำบรรพ์ที่ทราบอายุ
ลักษณะการลำดับชั้นของหินชนิดต่างๆ และลักษณะโครงสร้างทางธรณีวิทยาของหิน
แล้วนำมาเทียบสัมพันธ์กับช่วงเวลาทางธรณีวิทยาที่เรียกว่า ธรณีกาล (geologic
time) ก็จะสามารถบอกอายุของหินที่เราศึกษาได้ว่าเป็นหินยุคไหนหรือมีช่วงอายุเป็นเท่าใด
- อายุสัมบูรณ์ (absolute age) เป็น อายุของหินหรือซากดึกดำบรรพ์ที่สามารถบอกเป็นจำนวนปีที่ค่อนข้างแน่นอน การหาอายุสัมบูรณ์ใช้วิธีคำนวณจากครึ่งชีวิตของธาตุกัมมันตรังสีที่มีอยู่ใน หิน หรือซากดึกดำบรรพ์ที่ต้องการศึกษา ธาตุกัมมันตรังสีที่นิยมนำมาหาอายุสัมบูรณ์ ได้แก่ ธาตุคาร์บอน - 14 ธาตุโพแทสเซียม – 40 ธาตุเรเดียม – 226 และธาตุยูเรเนียม – 238 เป็นต้น การใช้วิธีคำนวณจากครึ่งชีวิตของธาตุกัมมันตรังสีมักจะใช้หาอายุของหินอัคนีและหินแปร
- ซากดึกดำบรรพ์ (Fossils)
ซากดึกดำบรรพ์ (Fossils) คือ
ซากของสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์ที่เคยอาศัยอยู่ในบริเวณนั้น
เมื่อตายลงซากก็ถูกทับถมและฝังตัวอยู่ในชั้นหินตะกอน
บางครั้งจะพบซากดึกดำบรรพ์เพียงอวัยวะบางส่วน
แต่มีซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์บางชนิดที่มีอวัยวะครบถ้วน
ซาก ดึกดำบรรพ์เหล่านี้เป็นที่สนใจแก่นักชีววิทยา นอกจากนี้นักธรณีวิทยาและผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับธรรมชาติวิทยาก็ให้ความ
สนใจมาก โดยมันจะให้ประโยชน์ในการศึกษาเหตุการณ์ต่างๆ
ที่เกิดขึ้นในอดีตได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น สภาพของดินฟ้าอากาศและสภาพแวดล้อม
นอกจากนี้มันยังช่วยในการศึกษาการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตและสภาพ ภูมิประเทศ
สำหรับ
นักธรณีวิทยาพวกซากดึกดำบรรพ์จะบอกให้ทราบถึงอายุของหินและสภาวะแวดล้อมใน
อดีตว่าเป็นบนบกหรือในทะเล เป็นต้น
และทำให้สามารถหาความสัมพันธ์ของชั้นหินในบริเวณต่างๆได้
โดยสามารถบอกช่วงอายุของหินชนิดอื่นที่เกิดอยู่ร่วมกับหินตะกอนเหล่านั้น ด้วย
การจะใช้ซากดึกดำบรรพ์เพียงอย่างเดียวเพื่อบอกถึงอายุและสภาพแวดล้อมนั้น
บางครั้งก็อาจจะผิดพลาดได้
ยกตัวอย่างเช่น สัตว์
น้ำจืดเมื่อตายลงซากของมันอาจจะถูกพัดพาไปทับถมอยู่ในส่วนที่เป็นทะเล
หรือซากดึกดำบรรพ์ที่มีอยู่ในหินชนิดหนึ่ง ซึ่งเมื่อโผล่พ้นผิวโลกขึ้นมาแล้วถูกขบวนการสลายตัวทั้งทางกายภาพ
และทางเคมีจนหินผุพังลง ส่วนซากดึกดำบรรพ์นั้นสามารถทนทานต่อการสลายตัว
จึงเหลืออยู่และไปทับถมอยู่ในตะกอนใหม่ซึ่งอาจจะทำให้เข้าใจผิดได้
ซากดึกดำบรรพ์ดัชนี (index
fossils) เป็น
ซากดึกดำบรรพ์ที่มีความสำคัญมากในการกำหนดอายุของหิน สามารถบอกอายุได้แน่นอน
เนื่องจากเป็นซากดึกดำบรรพ์ที่มีวิวัฒนาการทางโครงสร้างและรูปร่างอย่างรวด เร็ว
มีความแตกต่างในแต่ละช่วงอายุอย่างเห็นเด่นชัด
และปรากฏให้เห็นเพียงช่วงอายุหนึ่งแล้วก็สูญพันธุ์ไป ได้แต่ ไตรโลไบท์
เป็นหอยสองฝา
แกรพโตไลท์ (Graptolites) เป็นพวกปะการัง
และฟิวซิลินิด (fulisinid)
โดยทั่วไปพืชและสัตว์จะมีสภาพเป็นซากดึกดำบรรพ์ที่มีโครงร่างหรือภาพที่สมบูรณ์ได้นั้นจะขึ้นอยู่กับ
2. ต้อง ถูกฝังกลบอย่างรวดเร็ว เพราะการฝังกลบอย่างรวดเร็วจะทำให้ซากสิ่งมีชีวิตไม่ถูกความร้อน กระแสน้ำ และธารน้ำแข็งที่จะทำให้เกิดการสึกกร่อนและผุพังไป จึงยังคงสภาพเดิมได้ วัสดุที่ใช้ในการฝังกลบซากสิ่งมีชีวิตนั้นขึ้นอยู่กับ
1) สภาพแวดล้อม
2 2) การดำเนินชีวิตของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ
ซากดึกดำบรรพ์ที่เกิดในน้ำทะเลแล้วฝังตัวอยู่ในหินปูน
หินดินดานจะเป็นซากดึกดำบรรพ์ที่คงสภาพเดิมอย่างสมบูรณ์
ประเทศไทยพบซากดึกดำบรรพ์ทั้งที่เป็นสัตว์และพืชหลายชนิดในชั้นหินตามภูมิภาพต่างๆ
เช่น พบไดโนเสาร์ ชื่อว่า “ภูเวียงโกซอรัส
สิรินทรเน” เป็น ไดโนเสาร์ประเภทเดินสี่เท้า กินพืชเป็นอาหาร
คอและหางยาว ต่อมาพบไดโนเสาร์อีกหลายชนิดที่ภูกุ้มข้าว อำเภอสหัสขันธ์
จังหวัดกาฬสินธุ์ และที่จังหวัดชัยภูมิ สกลนคร อุดรธานี อุบลราชธานี และนครราชสีมา
จะเห็นว่าแหล่งซากไดโนเสาร์ของประเทศไทยส่วนมากจะอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียง
เหนือในชั้นหินทราย หินทรายแป้ง ซึ่งเป็นหินอยู่ในยุคไทรแอสชิกตอนปลาย
ซึ่งยุคนี้มีการทับถมของตะกอนหินดินดานสีแดงและหินทรายตามบึงหนามาก
ตามทะเลทรายและหนองน้ำต่างๆ
สัตว์เลื้อยคลานมีวิวัฒนาการสูงและพบเป็นปริมาณมากมีโครงกระดูกแข็งแรง
มีเปลือกหุ้มไข่ ไดโนเสาร์เริ่มปรากฏเป็นครั้งแรกโดยพบเป็นรอยเท้าอยู่มากมายในหินยุคนี้จน
ถึงยุคครีเทเชียสตอนกลาง
ภาพตัวอย่างฟอสซิล
![]() |
ซากกระดูกของไดโนเสาร์ซอโรพอด |
![]() |
ฟันของไดโนเสาร์ซอโรพอด พบจากแหล่งขุดค้นวัดสักกะวัน จ.กาฬสินธุ์
|
![]() |
ฟันกรามล่างของไดโนเสาร์ปากนกแก้ว ซิตตะโกซอรัส สัตยารักษ์กี
|
ใน
กรณีที่ไม่มีชั้นหินและซากดึกดำบรรพ์ประกฎให้เห็นในหิน
นักธรณีวิทยาจำเป็นจะต้องนำโครงสร้างทางธรณีที่เกิดขึ้นในหินทุกชนิดที่เกิด
ร่วมกันอยู่ร่วมกันมาพิจารณาหาความสัมพันธ์ในอายุของหิน เช่น มีหินอัคนีแทรกดันตัดผ่านชั้นหินตะกอน
ชั้นหินตะกอนที่ถูกหินอัคนีตัดแทรกจะมีอายุแก่กว่าหินอัคนี
เนื่องจากเป็นชั้นหินที่เกิดก่อน
ดังนั้นถ้าผู้เรียนทราบอายุของหินอัคนีก็จะทราบอายุของหินตะกอนได้
ในทำนองกลับกันถ้าเราทราบอายุของหินตะกอนโดยทำการศึกษาจากอายุของซากดึกดำ
บรรพ์ที่อยู่ในหินตะกอนนั้น ผู้เรียนก็จะสามารถคาดคะเนอายุของหินอัคนีที่แทรกขึ้นมาได้เช่นกัน
นอก
จากนี้รอยเลื่อนรูปแบบต่างๆที่ปรากฏอยู่ให้เห็น
รอยเลื่อนนี้จะทำให้ชั้นหินเอียงเทและเคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิมได้
ซึ่งสามารถที่จะนำมาใช้เป็นหลักฐานในการลำดับชั้นหินเพื่อบอกอายุของหินได้
หรือบอกประวัติความเป็นมาของพื้นที่นั้นๆได้
การ
ลำดับชั้นหินเป็นการศึกษาว่าด้วยรูปแบบการวางตัว การแผ่กระจาย การสืบลำดับอายุ
การจำแนกชนิด
และความสัมพันธ์ต่อกันของชั้นหินและหินอย่างอื่นที่สัมพันธ์กันอย่างใดอย่าง
หนึ่งหรือทั้งหมดที่มีอยู่ในหินเป็นเกณฑ์กำหนดแบ่ง จึงเกี่ยวข้องกับต้นกำเนิด
องค์ประกอบ สภาพแวดล้อม อายุประวัติ และความสัมพันธ์ต่อวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
ตลอดจนลักษณะอื่นๆของชั้นหิน
การจัดลำดับชั้นหินจะมีการจัดเรียงลำดับหน่วยของชั้นหินตามตำแหน่งของชั้น
หินและลำดับอายุของชั้นหิน
ลำดับ
ชั้นหินที่ได้จากผลรวมของสมบัติทุกชนิดที่มีอยู่ในชั้นหินแต่ละชั้นใน
พื้นที่ศึกษาชั้นหินแบบฉบับลำดับชั้นหินใดๆ
ที่กำหนดให้เป็นลำดับมาตรฐานเพื่อใช้อ้างอิงในการนิยามลำดับชั้นหิน
โดยมีสมบัติพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์และบอกขอบเขตบนและล่างของลำดับชั้นหินนั้น ได้ด้วยชื่อของชั้นหินแบบฉบับหนึ่งๆจะตั้งขึ้นตามชื่อท้องถิ่นของชั้นหินแบบ
ฉบับนั้นๆ
หลัก
การเบื้องต้นของการเรียงลำดับชั้นหินมี 3 ประการ คือ หลักการวางตัวซ้อนทับ
หลักความเป็นเอกภาพ และหลักการใช้ซากดึกดำบรรพ์ในการหาความสัมพันธ์
การ
ลำดับชั้นหินของประเทศไทยเป็นการจัดลำดับชั้นของหินชั้นและหินแปรให้เป็น
หมวดหมู่เดียวกันโดยเริ่มจากชั้นหินอายุแก่ที่สุดไปหาชั้นหินที่อายุอ่อนที่ สุด
โดยพิจารณาจากเกณฑ์ตามลักษณะกำเนิดจากหลักฐานซากดึกดำบรรพ์ ชนิดหิน
ลักษณะโครงสร้างและความสัมพันธ์ รวมถึงลักษณะที่หินถูกแปรสภาพไป
ซึ่งปรากฏให้เห็นแตกต่างกันหรือคล้ายคลึงกันในแต่ละท้องถิ่น
ชั้นหินสามารถแบ่งในหมู่หิน หน่วยหิน และหน่วยย่อยลงไปคือชนิดของหิน
ความสำคัญของการศึกษาธรณีประวัติ
- ทำให้ผู้เรียนสามารถรู้ถึงประวัติความเป็นมาของผืนแผ่นดินที่เราอาศัยอยู่
- สามารถ จำกัดขอบเขตของหินให้ชัดเจนขึ้น ซึ่งได้จากการศึกษาซากดึกดำบรรพ์และการลำดับชั้นหินให้เป็นหมวดหมู่ตามอายุ ของซากดึกดำบรรพ์ จากการจำกัดขอบเขตของหินนี้มีประโยชน์ในการไปใช้วางแผนพัฒนาพื้นที่
- การศึกษาธรณีประวัติจะทำให้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
- ช่วยในการสำรวจหาทรัพยากรธรณี ทั้งนี้เพราะหินแต่ละช่วงอายุเกิดในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกันและมีทรัพยากรธรรมชาติที่แตกต่างกัน
จาก
การศึกษารวบรวมข้อมูลทางด้านธรณีวิทยา
สำหรับข้อมูลทางธรณีวิทยาของประเทศไทยตั้งแต่ยุคแรกจนถึงปัจจุบัน ข้อมูลต่างๆเหล่านี้จะถูกรวบรวมอยู่ในรูปของแผนที่ธรณีวิทยาและรายงาน
ซาก
ดึกดำบรรพ์หรือบรรพชีวินหรือฟอสซิล
เป็นซากร่องรอยของสิ่งมีชีวิตที่ถูกเก็บรักษาไว้ ซึ่งมีหลายชนิด เช่น ฟัน กระดูก
หรือเปลือกแต่ในบางสภาวะอาจมีการเก็บรักษาซากสัตว์ทั้งตัวให้คงอยู่ได้เช่น
ช้างแมมมอธที่ไซบีเรีย
การเปลี่ยนแปลงจากซากสิ่งมีชีวิตมาเป็นซากดึกดำบรรพ์นั้นเกิดได้ในหลาย
ลักษณะโดยที่เมื่อสิ่งมีชีวิตตายลงส่วนต่างๆของสิ่งมีชีวิตจะค่อยๆถูก
เปลี่ยนเป็นช่องว่าง โพรงหรือรูต่างๆในโครงสร้างอาจมีแร่เข้าไปตกผลึกทำให้แข็งขึ้น
เรียกกระบวนการนี้ว่า การกลายเป็นหิน
หรือเนื้อเยื่อผนังเซลล์และส่วนแข็งอื่นๆถูกแทนที่ด้วยแร่โดยกระบวนการแทน ที่
เปลือกหอยหรือสิ่งมีชีวิตที่จมอยู่ตามชั้นตะกอนอาจเกิดเป็นรอยประทับอยู่บน
ชั้นตะกอนซึ่งเรียกลักษณะนี้ว่า รอยพิมพ์
หากว่าช่องว่างนี้มีแร่เข้าไปตกผลึกจะเรียกว่า รูปหล่อ
การเพิ่มคาร์บอนโดยธรรมชาติเป็นการเก็บรักษาซากดึกดำบรรพ์จำพวกใบไม้หรือ
สัตว์เล็กๆในลักษณะที่มีตะกอนเนื้อละเอียดมาปิดทับซากสิ่งมีชีวิต
สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มีลักษณะบอบบางจะถูกเก็บรักษาให้กลายเป็นซากดึกดำ
บรรพ์ในยางไม้
ซาก ดึกดำบรรพ์ยังอาจเป็นร่องรอยที่เกิดจากสิ่งมีชีวิต
เช่น รอยคืบคลาน รอยเท้า หรืออาจเป็นช่องรู
โพรงในชั้นตะกอนในเนื้อไม้หรือในหินที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตและมีแร่ไปตกผลึก
ในช่องเหล่านี้ มูลสัตว์หรือเศษอาหารที่อยู่ในกระเพาะที่เรียกว่า คอโปรไรต์
เป็นซากดึกดำบรรพ์ที่มีประโยชน์ในการบอกถึงนิสัยการกินของสัตว์นั้นๆหรืออาจ
เป็นก้อนหินที่เรียกว่า แกสโทรลิต ที่สัตว์กินเข้าไปเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร
ซาก
ดึกดำบรรพ์บางชนิดใช้เป็นตัวบอกอายุของหินและนำมาใช้เป็นหลักฐานในการหาความ
สัมพันธ์ของชั้นหินในบริเวณต่างๆคือ ซากดึกดำบรรพ์ดรรชนี
ซึ่งเป็นซากของสิ่งมีชีวิตที่เคยมีชีวิตอยู่ในโลก มีการแพร่กระจายอยู่ทั่วไป
แต่มีชีวิตอยู่ในช่วงสั้นๆในชั้นหินต่างๆ อาจพบซากดึกดำบรรพ์ดรรชนีได้ยาก
จำเป็นต้องใช้กลุ่มของซากดึกดำบรรพ์ในการหาความสัมพันธ์ของชั้นหินในบริเวณ นั้นๆ
ซึ่งจะมีความแม่นยำกว่าการใช้ซากดึกดำบรรพ์เพียงชนิดเดียว
ซากดึกดำบรรพ์ได้ถูกนำมาใช้ในการบอกถึงสภาพแวดล้อมของการสะสมตัวของตะกอนอีก ด้วย
โครงสร้างและการลำดับชั้นหิน
โลก ของเรานั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกระบวนการ
และปรากฏการณ์ต่างๆ ทางธรณีวิทยา
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้หินที่ปรากฏอยู่บนเปลือกโลกมีการเปลี่ยนแปลง
ทั้งรูปแบบและที่ตั้ง จากหลักการที่ว่า “ปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันล้วนเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต”
นั่นคือสามารถกล่าวได้ว่า “ปัจจุบัน คือ
กุญแจไขไปสู่อดีต”
ชั้นหิน
มีความสำคัญมากในการแปลความหายของการศึกษาอายุของหิน
ตลอดจนการศึกษาประวัติความเป็นมาของภูมิประเทศแต่ละบริเวณ
ชั้น
ของหินในระยะเกิดใหม่ๆ จะมีการวางตัวตามแนวระนาบ ซึ่งแสดงว่ามันยังไม่ถูกรบกวน
แต่มีหลายบริเวณที่มันถูกรบกวนทำให้ชั้นหินเอียงตัว หรือโค้งงอไป
ใน
สภาพปกติชั้นหินตะกอนที่อยู่ด้านล่างจะสะสมตัวก่อนอายุมากกว่าชั้นหินตะกอน
ที่อยู่ชั้นบนขึ้นมา หินดินดานเป็นหินที่มีอายุมากที่สุด
หินปูนเกิดสะสมก่อนหินกรวดมน และหินทรายมีอายุน้อยที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น